อุตสาหกรรมคมนาคมและการขนส่ง
หลังจากที่ประเทศจีนได้กลายเป็นแหล่งโรงงานของโลก ทำให้บริษัทต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศจีนต้องสั่งของจากต่างประเทศเข้ามามาก ทำให้เกิดความต้องการในการขนส่งสินค้าเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ปริมาณสินค้าในประเทศที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้การขนส่งภายในประเทศที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน
การปรับปรุงทางด้านการขนส่งของจีนแบ่งได้เป็น 2 ส่วน หนึ่งคือการขยายและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคของรัฐบาล สองคือการปรับปรุงการจัดการระบบการขนส่งและกระจายสินค้าที่ดีขึ้น ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่ยากต่อการสร้างระบบการขนส่งที่ดีเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ที่ใหญ่และประชากรที่มหาศาล
ภาคการขนส่งของจีนเป็นภาคที่ต้องการการปรับปรุงมากที่สุด มีรายงานว่าต้นทุนทางการผลิตสินค้ามาจากค่าการขนส่งถึง 40% รัฐบาลต้องการพัฒนาระบบการขนส่งเป็นอย่างมาก แต่การร่วมมือจากต่างชาติยังอยู่ในระดับที่ต่ำ
รถบรรทุกถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการขนส่งเพราะเร็วและมีความคล่องตัว แต่จากปัญหาทางด้านความจุที่น้อย, ต้นทุนที่สูง และบางครั้งก็ทำความเสียหายให้กับสินค้า ทำให้สัดส่วนในการใช้บริการน้อยเมื่อเทียบกับรถไฟหรือเรือ
การขนส่งทางรถไฟได้รับความนิยมมากที่สุดโดยเฉพาะถ้าบริเวณนั้นยังไม่มีถนนตัดผ่าน ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งทางเรือ แต่ข้อเสียของรถไฟก็คือ อัตราความเสียหายขอสินค้าที่สูงกว่ารถไฟ, ขโมย ดังนั้นการขนส่งทางรถไฟจึงเหมาะกับการส่งสินค้าอุปโภคบริโภคทีละมาก ๆ เช่น ถ่านหิน เป็นต้น ในช่วงปี 2002-2007 จีนมีแผนการขยายทางรถไฟอีก 16 สาย เป็นระยะทางกว่า 7,000 กม. ซึ่งได้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน วางแผนออกแบบการก่อสร้าง
การขนส่งทางเรือได้ครอบคลุมการนำเข้าส่งออกเกือบทั้งหมดของประเทศจีน โดยมี Shanghai เป็นท่าใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ และมีโครงการที่จะลงทุนเพิ่มอีกกว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้Shanghai จะกลายเป็นท่าที่มีขนาดถึง 25 ล้านTEUs ขณะที่ความจุรวมของท่าเรือทั้งประเทศจีนอยู่ที่ 100 ล้านTEUs ในปี 2003 โดยท่าที่สำคัญได้แก่ Shenzhen, Guangzhou , Zhongshan รวมไปถึง Hongkong และแถบแม่น้ำไข่มุก Shanghai , Ningbo , Xiamen และ Fuzhou และแถบชายฝั่งตอนกลาง Tianjin ,Qingdao และ Dalian
การขนส่งทางเรือมีข้อดีเหมือนรถไฟก็คือถูกและเหมาะกับสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก มีความพยายามที่จะปรับปรุงความปลอดภัยและผู้ช่วยในการนำทางให้กับการเดินทางทางเรือ แต่ก็ยังมีปัญหาทางด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ยังล้าหลังอยู่ การสร้างเขื่อนซานเสียที่แม่น้ำแยงซีพอจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำได้บ้าง
สายการบินต่างชาติหรือบริษัทขนส่งสินค้าโดยเฉพาะได้เข้ามาให้บริการบรรทุกสินค้าในประเทศจีน การขนส่งทางอากาศยังเป็นส่วนที่สามารถพัฒนาดีอีกมาก สิ้นปี 2004 จีนมีเครื่องบินขนส่งเพียง 24 ลำเท่านั้น ภายหลังการเข้าเป็นสมาชิก WTO บริษัทต่างชาติก็เข้ามาให้บริการมากขึ้นเช่น DHL, UPS, Fedex และ Lufthansa
จากกระแสการใช้บริษัทที่สามเข้ามาดูแลทางด้านการขนส่งโดยเฉพาะของบริษัทระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทำให้จีนต้องหันมาให้ความสำคัญโดยเฉพาะในข้อตกลงกับ WTO ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ตั้งแต่มกราคม 2004 บริษัทจากฮ่องกงจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาดำเนินธุรกิจทางภาคการขนส่งได้อย่างเต็มที่ และตอนสิ้นปี 2004 บริษัทต่างชาติจะสามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจในภาคการขนส่งทางถนนได้ แต่การขนส่งทางรถไฟจะอนุญาตในปี 2006 ขณะที่บริษัทต่างชาติที่ถือหุ้น 75% ขึ้นไปจะสามารถดำเนินธุรกิจทางเรือได้ในปี 2005
การพัฒนาระบบการขนส่งของจีนนั้นต้องเริ่มจากการพัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านอินเตอร์เน็ต และยิ่งมีคู่แข่งเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมเท่านั้น เห็นได้จากการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ถึง 30-50% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านและจะเป็นเติบโตอย่างนี้ไปอีกหลายปี
没有评论:
发表评论