2011年2月9日星期三

อุตสาหกรรมคมนาคมและการขนสง

อุตสาหกรรมคมนาคมและการขนส่ง
      หลังจากที่ประเทศจีนได้กลายเป็นแหล่งโรงงานของโลก ทำให้บริษัทต่างชาติที่เข้ามาทำธุรกิจในประเทศจีนต้องสั่งของจากต่างประเทศเข้ามามาก ทำให้เกิดความต้องการในการขนส่งสินค้าเข้าประเทศเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ปริมาณสินค้าในประเทศที่เพิ่มขึ้นก็ทำให้การขนส่งภายในประเทศที่มีประสิทธิภาพเป็นที่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน
การปรับปรุงทางด้านการขนส่งของจีนแบ่งได้เป็น 2 ส่วน หนึ่งคือการขยายและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคของรัฐบาล สองคือการปรับปรุงการจัดการระบบการขนส่งและกระจายสินค้าที่ดีขึ้น  ประเทศจีนถือว่าเป็นประเทศที่ยากต่อการสร้างระบบการขนส่งที่ดีเนื่องจากข้อจำกัดทางด้านพื้นที่ที่ใหญ่และประชากรที่มหาศาล
ภาคการขนส่งของจีนเป็นภาคที่ต้องการการปรับปรุงมากที่สุด มีรายงานว่าต้นทุนทางการผลิตสินค้ามาจากค่าการขนส่งถึง 40% รัฐบาลต้องการพัฒนาระบบการขนส่งเป็นอย่างมาก แต่การร่วมมือจากต่างชาติยังอยู่ในระดับที่ต่ำ
รถบรรทุกถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ในการขนส่งเพราะเร็วและมีความคล่องตัว แต่จากปัญหาทางด้านความจุที่น้อย, ต้นทุนที่สูง และบางครั้งก็ทำความเสียหายให้กับสินค้า ทำให้สัดส่วนในการใช้บริการน้อยเมื่อเทียบกับรถไฟหรือเรือ
การขนส่งทางรถไฟได้รับความนิยมมากที่สุดโดยเฉพาะถ้าบริเวณนั้นยังไม่มีถนนตัดผ่าน ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าการขนส่งทางเรือ แต่ข้อเสียของรถไฟก็คือ อัตราความเสียหายขอสินค้าที่สูงกว่ารถไฟ, ขโมย ดังนั้นการขนส่งทางรถไฟจึงเหมาะกับการส่งสินค้าอุปโภคบริโภคทีละมาก ๆ เช่น ถ่านหิน เป็นต้น ในช่วงปี 2002-2007 จีนมีแผนการขยายทางรถไฟอีก 16 สาย เป็นระยะทางกว่า 7,000 กม. ซึ่งได้เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติเข้ามาร่วมลงทุน วางแผนออกแบบการก่อสร้าง
การขนส่งทางเรือได้ครอบคลุมการนำเข้าส่งออกเกือบทั้งหมดของประเทศจีน โดยมี Shanghai เป็นท่าใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินใหญ่ และมีโครงการที่จะลงทุนเพิ่มอีกกว่า 16 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในการพัฒนาให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในอีก 15 ปีข้างหน้า ซึ่งจะทำให้Shanghai จะกลายเป็นท่าที่มีขนาดถึง 25 ล้านTEUs ขณะที่ความจุรวมของท่าเรือทั้งประเทศจีนอยู่ที่ 100 ล้านTEUs ในปี 2003 โดยท่าที่สำคัญได้แก่ Shenzhen, Guangzhou, Zhongshan รวมไปถึง Hongkong และแถบแม่น้ำไข่มุก Shanghai, Ningbo, Xiamenและ Fuzhou และแถบชายฝั่งตอนกลาง Tianjin,Qingdao และ Dalian
การขนส่งทางเรือมีข้อดีเหมือนรถไฟก็คือถูกและเหมาะกับสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมาก มีความพยายามที่จะปรับปรุงความปลอดภัยและผู้ช่วยในการนำทางให้กับการเดินทางทางเรือ แต่ก็ยังมีปัญหาทางด้านอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ยังล้าหลังอยู่ การสร้างเขื่อนซานเสียที่แม่น้ำแยงซีพอจะช่วยในเรื่องความปลอดภัยและการจราจรทางน้ำได้บ้าง
สายการบินต่างชาติหรือบริษัทขนส่งสินค้าโดยเฉพาะได้เข้ามาให้บริการบรรทุกสินค้าในประเทศจีน การขนส่งทางอากาศยังเป็นส่วนที่สามารถพัฒนาดีอีกมาก สิ้นปี 2004 จีนมีเครื่องบินขนส่งเพียง 24 ลำเท่านั้น ภายหลังการเข้าเป็นสมาชิก  WTO บริษัทต่างชาติก็เข้ามาให้บริการมากขึ้นเช่น DHL, UPS, Fedex และ Lufthansa
จากกระแสการใช้บริษัทที่สามเข้ามาดูแลทางด้านการขนส่งโดยเฉพาะของบริษัทระดับโลกหลายแห่ง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีทำให้จีนต้องหันมาให้ความสำคัญโดยเฉพาะในข้อตกลงกับ WTO ซึ่งได้ข้อสรุปว่า ตั้งแต่มกราคม 2004 บริษัทจากฮ่องกงจะได้รับอนุญาตให้เข้ามาดำเนินธุรกิจทางภาคการขนส่งได้อย่างเต็มที่ และตอนสิ้นปี 2004 บริษัทต่างชาติจะสามารถเข้ามาดำเนินธุรกิจในภาคการขนส่งทางถนนได้ แต่การขนส่งทางรถไฟจะอนุญาตในปี 2006 ขณะที่บริษัทต่างชาติที่ถือหุ้น 75% ขึ้นไปจะสามารถดำเนินธุรกิจทางเรือได้ในปี 2005
การพัฒนาระบบการขนส่งของจีนนั้นต้องเริ่มจากการพัฒนาระบบการให้บริการข้อมูลต่าง ๆ โดยเฉพาะทางด้านอินเตอร์เน็ต และยิ่งมีคู่แข่งเข้ามาในธุรกิจนี้มากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อภาพรวมเท่านั้น เห็นได้จากการเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ถึง 30-50% ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านและจะเป็นเติบโตอย่างนี้ไปอีกหลายปี

没有评论:

发表评论